วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

ลาว


                                                                หลวงพระบาง






อดีตเมืองหลวงเก่าแก่ของลาว เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาที่โอบล้อม อุดมไปด้วยวัดวาอารามเก่าแก่ บ้านเรือนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในแบบโคโลเนียลสไตล์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคานที่ไหลมาบรรจบกันเกิดเป็นแหลมกลางเมือง ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับ ภูสี ภูเขาขนาดย่อมที่มี พระธาตุจอมสี ประดิษฐานอยู่บนยอด ซึ่งคงอยู่มานานหลายร้อยปี


องค์การยูเนสโก (UNESCO) ยกย่องให้หลวงพระบางเป็น เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ยังมีลมหายใจ เมื่อเดือนธันวาคม 2538 ที่นี่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นตัวของตัวเองในแบบอาณาจักรล้านช้างเมื่อครั้งอดีต ทั้งขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมการกิน ที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะความบริสุทธ์ของชาวหลวงพระบาง ที่ยิ้มแย้มแจ่มใสและมีมิตรภาพเหมือนเมื่อครั้งอดีต ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ดึงดูดที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก ต่างพยายามหาโอกาสมาเยี่ยมเยือนเมืองแห่งนี้


วีซ่า


การขอวีซ่าสามารถติดต่อได้ที่สถานทูตลาวในประเทศไทย หรือสามารถติดต่อขอได้เมื่อมาถึงสนามบินหลวงพระบาง โดยเสียค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าคนละ 30 ดอลล่าร์สหรัฐ พร้อมกับรูปถ่ายขนาดเดียวกับในพาสปอร์ต 2 ใบ


ภูมิอากาศ


ช่วงเดือนมีนาคมถือเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของหลวงพระบาง อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 32 องศาเซลเซียส ช่วงเดือนธันวาคมและมกราคมเป็นช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิประมาณ 26 องศาเซลเซียส ควรสวมใส่เสื้อผ้าฝ้ายแบบเบาสบายเพื่อความเหมาะสมในการเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ


ประชากร


หลวงพระบางมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 500,000 คน ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาทและประกอบอาชีพเกษตรกรรม


ระบบเงินตรา


สกุลเงินของลาวคือกีบ 1 บาทเท่ากับประมาณ 250 กีบ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา เดือนสิงหาคม 2548 แต่สามารถใช้เงินบาทหรือเงินดอลล่าร์สหรัฐได้ด้วย


ที่พัก


หลวงพระบางมีที่พักตั้งแต่โรงแรมระดับห้าดาวราคาประมาณ 150-200 ดอลล่าร์สหรัฐ ไปจนถึงเกสต์เฮ้าส์ราคาประหยัดเริ่มต้นที่ 2-3 ดอลล่าร์สหรัฐต่อคืน


อาหาร


พื้นฐานการกินของชาวหลวงพระบางประกอบด้วย ข้าวเหนียว ผักจิ้มน้ำพริก และอาหารพื้นเมือง เช่น ไคแผ่น, ไส้อั่ว และหมก แต่หลังจากต้องอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส ทำให้วัฒนธรรมการกินของชาวหลวงพระบางโดยเฉพาะชนชั้นปกครองเปลี่ยนไปเป็นแบบตะวันตกอย่าง สลัด หรือ ขนมปัง แทน แต่ต่อมาขนมปังหรือที่คนลาวเรียกว่า ข้าวจี่ปาเต ก็กลายเป็นอาหารมื้อเช้าของชาวลาว โดยมีการดัดแปลงให้เข้ากับวัฒนธรรมการกินด้วยการใส่ไส้และเครื่องเคียงพื้นเมืองการกินของชาวลาวยังได้รับอิทธิพลมาจากการนำคนเวียตนามที่อยู่ใต้อาณัติของฝรั่งเศสมาช่วยปกครอง ก๋วยเตี๋ยวญวนหรือเฝอ จึงกลายเป็นอาหารยอดนิยมของชาวลาวอีกอย่าง แต่ที่พลาดไม่ได้ก็คือ สลัดหลวงพระบาง หรือสลัดผักน้ำ ซึ่งเรียกตามส่วนประกอบสำคัญอย่างผักน้ำ (WATERCRESS) เป็นผักที่มีเฉพาะที่หลวงพระบางเท่านั้น ใบผักจะมีลักษณะเล็ก ๆ สีเขียว ลำต้นยาว รสชาติคล้ายมินท์ กรอบ อร่อย นอกจากนี้ยังมี แจ่วบอง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับน้ำพริกเผาของไทย ทำมาจากปลาร้า แต่จะต่างกันตรงที่ของลาวจะใส่หนังควายแห้งผสมลงไปด้วย รับประทานกับไคแผ่น ทำจากสาหร่ายน้ำจืดเวลาจะรับประทานต้องนำไปทอดไฟอ่อน ๆ จิ้มกับแจ่วบอง บรรจุเป็นถุงขายขนาดครึ่งกิโลกรัมและหนึ่งกิโลกรัม หาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป คนไทยนิยมซื้อกลับไปเป็นของฝากมากที่สุด


แหล่งช้อปปิ้ง


นอกจากบริเวณบ้านเจ๊กหรือตรอกข้าวเหนียวแล้ว ที่ที่นักท่องเที่ยวจะไปจับจ่ายซื้อของที่ระลึกได้มีที่น่าสนใจอีก 2 แห่งคือ ตลาดดารา ที่อยู่ใจกลางหลวงพระบาง มีสินค้าประเภทผ้าทอและเครื่องเงินจากแขวงต่าง ๆ ในลาว และ ตลาดม้ง ตรงข้ามตลาดสดท่ารถเวียงจันทน์ มีสินค้าประเภทผ้าทอปักลวดลายของชาวเขาเผ่าม้ง และมีเครื่องเงินบ้างเล็กน้อย ฝั่งตรงข้ามเป็นมินิโพสต์ จำหน่ายโปสการ์ดและแสตมป์ เป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาซื้อหากันมากที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น